วันจันทร์ที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2559

ศากยวงศ์ จากหนังสือ 'ประวัติศาสตร์พระพุทธศาสนาในอินเดีย' โดยพระมหาดาวสยาม วชิรปัญโญ พระธรรมทูตสายต่างประเทศ

ศากยวงศ์
จากหนังสือ 'ประวัติศาสตร์พระพุทธศาสนาในอินเดีย'
โดยพระมหาดาวสยาม ในยุคบรรพกาล ได้มีชนเผ่าเชื้อสายอริยกะหรืออารยันอพยพเข้ามาตั้งรกรากและราชธานี ณ เชิงเขาหิมาลัย ชนเผ่าที่อพยพเข้ามาในภายหลัง
ก่อนหน้านั้นดินแดนแถบนี้ เป็นที่อยู่อาศัยของพวกมิลักขะ ซึ่งมีความเจริญที่น้อยกว่า พวกอริยกะหรืออารยันเป็นพวกที่นับถือในศาสนาพราหมณ์เคร่งครัด และเชื่อถือในระบบวรรณะอย่างสุดโต่ง
โดยเชื่อว่าวรรณะทั้ง ๔ ไม่สามารถที่จะแต่งงานร่วมกันได้ ถ้าแต่งงานบุตรจะกลายเป็นจัณฑาลทันที พวกเขาถือว่าตนยิ่งใหญ่ และบริสุทธิ์กว่าสายเลือดอื่น ๆ จึงแต่งงานด้วยกันเองภายในหมู่พี่น้องและวงศาคณาญาติซึ่งมีอยู่ ๒ ตระกูลคือ
๑. ศากยวงค์
๒.โกลิยวงศ์
และเพราะความถือตัวจัดนี้เอง ที่ทำให้กรุงกบิลพัสดุด์ถูกทำลายอย่างย่อยยับ ด้วยอำนาจของพระเจ้าวิฑูฑภะ โอรสพระเจ้าปเสนทิโกศลแห่งสาวัตถี
ซึ่งพระเจ้าวิฑูฑภะเอง ก็ใช่อื่นไกลเป็นพระนัดดาของพระเจ้ามหานามแห่งกรุงกบิลพัสดุ์นั้นเอง
พระองค์ถูกเหยียดหยามจากพระญาติ ถึงขนาดเอาน้ำนมชำระล้างสถานที่ทุกแห่งที่พระองค์ประทับในกรุงกบิลพัสดุ์ คราวเสด็จเยี่ยมพระญาติ โดยพวกศากยะกรุงกบิลพัสดุ์รังเกียจว่า พระมารดาของพระองค์ไม่ใช่คนวรรณะกษัตริย์ แต่เป็นทาสีซึ่งเป็นคนละวรรณะกับพวกตน นี่คือชนวนของการทำลายล้างกรุงกบิลพัสดุ์ในเวลาต่อมา
เกี่ยวกับทฤษฏีของชนชาติอารยันของพวกศากยะที่เมืองกบิลพัสดุ์นี้ นักปราชญ์ไทยหลายท่านตั้งข้อสงสัยว่า พวกเขาน่าจะเป็นคนผิวเหลืองเชื้อสายมองโกลอยเหมือนคนไทย มากกว่าที่จะเป็นอารยันแบบแขก เพราะตัวอย่างที่เห็นได้ชัด คือมีชาวเนปาลเป็นจำนวนมาก เชื่อว่าตัวเองเป็นเชื้อสายศากยะ และหน้าตาพวกเขาก็เป็นคนผิวเหลือง ไม่ใช่แขกอินเดีย แต่ประเด็นนี้คงต้องศึกษากันต่อไป และไม่ควรด่วนสรุป เพราะเป็นเรื่องใหญ่ แต่เป็นที่น่าสังเกตว่า แม้แขกอินเดียเป็นจำนวนมาก ก็มีนามสกุล โคตมะ หรือ เคาตมะ และยังเชื่ออีกว่าพวกเขามีเชื้อสายเดียวกับพระพุทธองค์
ในทัศนะของคนเนปาลเองทุกคนเชื่อเต็มเปี่ยมว่าพระพุทธเจ้าเป็นชายเนปาล ไม่ใช่อินเดีย เพราะพระองค์เกิดในฝั่งเนปาล ไม่ใช่อินเดีย ซึ่งเป็นความจริงอยู่ไม่น้อย เพราะว่าตามสถานที่ประสูติแล้ว ลุมพินีและกบิลพัสดุ์ ก็ล้วนแล้วอยู่ในฝั่งเนปาล แต่เมื่อก่อนคำว่า อินเดีย เนปาลยังไม่เกิด มีแต่คำว่าชมพูทวีป พระพุทธองค์ใช้ชีวิตส่วนมากที่ฝั่งอินเดีย เพราะขณะที่พระชนม์ชีพอยู่ เมืองกบิลพัสดุ์ของพระองค์ก็ร้างแล้ว และเขตแดนกปิลพัสดุ์ลุมพินีก็ยังอยู่ในฝั่งอินเดีย จนอังกฤษเข้าปกครองอินเดียและยกให้เนปาลเมื่อ พ.ศ.๒๓๙๕ มานี้เอง
อย่างที่กล่าวมาแล้วว่า ต้นตระกูลของศากยวงศ์สืบเชื้อสายมาจากพระเจ้าโอกกากราชและแบ่งออกเป็น ๒ เมือง ๒ ตระกูล คือ เมืองกบิลพัสดุ์ เป็นนครหลวงของแคว้นสักกะ และเมืองเทวทหะเป็นนครหลวงของแคว้นโกลิยะ ดังมีโครงสร้างดังนี้
ฝ่ายศากยวงศ์พระเจ้าชัยเสนมีพระราชโอรสและธิดา ๒ พระองค์ คือ
๑. พระเจ้าสีหนุ ๒. พระนางยโสธรา
ฝ่ายโกลิยวงศ์ มีพระราชาที่ไม่ปรากฏนาม มีโอรส ๑ และธิดา ๑ คือ
๑. พระเจ้าอัญชนะ ๒. พระนางกาญจนา
พระเจ้าสีหนุแห่งศากยวงศ์อภิเษกสมรสกับ พระนางกาญจนา แห่งโกลิยวงศ์มีพระโอรสและธิดารวม ๗ พระองค์คือ ..
๑. พระเจ้าสุทโธทนะ
๒. พระเจ้าสุกโกทนะ
๓. พระเจ้าอมิโตทนะ
๔. พระเจ้าโธโตทนะ
๕. พระเจ้าฆนิโตทนะ
๖. พระนางปมิตา
๗. พระนางอมิตา
พระเจ้าอัญชนะแห่งโกลิยวงศ์อภิเษกสมรสกับ พระนางยโสธรา แห่งศากยวงศ์ มีพระโอรสและพระธิดารวม ๔ พระองค์คือ
๑. พระเจ้าสุปปพุทธะ
๒. พระเจ้าทัณฑปาณิ
๓. พระนางสิริมหามายา
๔. พระนางมหาปชาบดีโคตมี
พระเจ้าสุทโธทนะ แห่งศากยวงศ์อภิเษกสมรสกับพระนางสิริมหามายาแห่งโกลิยวงศ์ มีพระโอรส ๑ พระองค์คือ...
๑. เจ้าชายสิทธัตถะ
และต่อมาหลังพระนางสิริมหามายาสวรรคต พระองค์อภิเษกสมรสกับพระนางมหาปชาบดีโคตมี มีพระโอรสและธิดา ๒ พระองค์คือ...
๑. เจ้าชายนันทะ
๒. เจ้าหญิงรูปนันทา
พระเจ้าสุปปพุทธะ แห่งโกลิยวงศ์ได้อภิเษกสมรสกับพระนางอมิตาแห่งศากยวงศ์มีพระโอรสธิดารวม ๒ พระองค์คือ
๑. เจ้าชายเทวทัต
๒. พระนางยโสธรา (พิมพา)
พระเจ้าสุกโกทนะ.. แห่งศากยวงศ์อภิเษกสมรสกับพระนางกิสาโคตมี มีพระโอรสหนึ่งพระโอรส ๑ พระองค์คือ
๑. เจ้าชายอานนท์
พระเจ้าอมิโตทนะ.. แห่งศากยวงศ์ มีพระโอรสธิดารวม ๓ พระองค์คือ
๑. เจ้าชายมหานาม
๒. เจ้าชายอนุรุทธะ
๓. เจ้าหญิงโรหิณี
พระเจ้ามหานาม.. ครองราชสมบัติต่อจากพระเจ้าสุทโธทนะมีพระธิดาจากนางทาสี ๑ พระองค์คือพระนางวาสภขัตติยา ซึ่งต่อมาได้เป็นพระมเหสีของพระเจ้าปเสนทิโกศลแห่งสาวัตถี มีพระโอรส ๑ พระองค์ คือ
พระเจ้าวิฑูฑภะ
วชิรปัญโญ พระธรรมทูตสายต่างประเทศ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น